ที่มา ของ จอห์น (ชื่อ)

ชื่อ “จอห์น” มาจากคำว่า “יוחנן” Yôḥānnān (โยฮันนัน) ซึ่งแปลว่า “พระยาเวห์ผู้สง่า” (Yahweh is gracious) “พระยาเวห์” เป็นคำที่ชาวยิวใช้ในการกล่าวถึงพระเจ้า “โยฮันนัน” เป็นชื่อของราไบหรือนักบวชชาวยิวที่สำคัญๆ หลายคนในสมัยวัดที่สอง (Second Temple Period) ในดินแดนปาเลสไตน์ เช่น “โยคานัน เบน ซาคาอิ” (Yochanan ben Zakai)หรือ “โยคานัน เบน นูริ” (Yochanan ben Nuri)

ชื่อ “โยฮันนัน” เป็นชื่อที่นิยมกันในกลุ่มชาวยิวในแคว้นยูเดียและกาลิลีจนกระทั่งเมื่อบริเวณนี้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันในปี ค.ศ. 6 ซึ่งใช้เป็นชื่อตัวของ “โยคานัน เบน แซ็คคาริอาห์” (Yochanan ben Zechariah) ซึ่งแปลว่าจอห์นลูกของแซ็คคาไรห์หรือที่รู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า “John the Baptist” ในภาษาอังกฤษ (จอห์นแบ็พทิสต์เมื่อถอดเป็นภาษาไทย) นอกจากนั้นก็ยังเป็นชื่อของ “โยคานัน เบน เซเบดี” (Yochanan ben Zibhdi) ซึ่งแปลว่าจอห์นลูกของเซเบดีหรือที่รู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า “John the Apostle” ในภาษาอังกฤษ (จอห์นอัครสาวกเมื่อถอดเป็นภาษาไทย) และเป็นชื่อของจอห์นอีแวนเจลลิสผู้ประพันธ์พระวรสารนักบุญจอห์น ซึ่งอาจจะเป็นคนคนเดียวกับจอห์นอัครสาวก เอกสารที่กล่าวถึง “โยคานัน” สองคนนี้ เขียนเป็นภาษากรีกและชื่อมาจากการสะกดแบบกรีกเป็น “Ἰωάννης” หรือ “Iōannēs” (ออกเสียง โย-ฮัน-เนยส์) ซึ่งเป็นชื่อที่นิยมกันมากในสมัยคริสเตียนยุคแรก ซึ่งรวมทั้ง “โยฮันเนยส์ คริสซอสโตมอส” (Ioannes Chrysostomos) หรือนักบุญจอห์น คริสซอสตอม และ “โยฮันเนยส์” ผู้เขียนหนังสือวิวรณ์

เพราะความที่ผู้นับถือคริสต์ศาสนามีความนับถือในตัวบุคคลสำคัญๆ ที่ชื่อจอห์น จึงทำให้ชื่อนึ้เผยแพร่ตามไปกับการแพร่ขยายของคริสต์ศาสนาในจักรวรรดิโรมัน แม้แต่บริเวณที่ห่างไกลจากศูนย์กลางเช่นบริเวณกอลและโรมันบริเตน ทางตะวันตกของจักรวรรดิโรมันมิได้พูดภาษากรีกเช่นเดียวกับบริเวณตะวันออก แต่พูดภาษาละติน ชื่อ “Iōannēs” จึงสะกดแบบละตินเป็น “Iohannes” แต่ออกเสียงเหมือนกัน

ประชาชนในจักรวรรดิโรมันเมื่อได้ชื่อมาก็เปลื่ยนไปตามสำเนียงท้องถิ่น เช่นบางแห่งก็ตัดคำเติมท้าย “-us” “-es” ออกจากชื่อ ภายในจักรวรรดิโรมันเช่นในภาษาเยอรมัน “Iōannēs” กลายเป็น “Johann” (โยฮันน์) ในภาษาสลาฟ กลายเป็น “Ivan” (ไอวาน หรือ อิวาน) หรือ “Ion” ในบริเวณทะเลดำที่ในปัจจุบันเป็นประเทศโรมาเนีย ที่ไกลๆ ออกไปเช่นที่ไอร์แลนด์ ผู้ที่เปลื่ยนศาสนาใช้ “Eoin” ในบางกรณี การออกเสียงจากต้นฉบับเดิม “ย” หรือ “อ” ก็เปลี่ยนเป็น “จ” ในภาษาอังกฤษ “ช” ในภาษาฝรั่งเศส และ “ฮ” หรือ “ค” ในภาษาสเปน

ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 หลังจากการรุกรานอังกฤษจากฝรั่งเศสโดยWilliam the Conqueror สำเนียงภาษาฝรั่งเศสก็เข้ามามีอิทธิพลในอังกฤษ ชื่อ “ชอง” (Jean) ในภาษาฝรั่งเศสก็มาออกเสียงเป็น “จอห์น” (John) เช่นที่ออกเสียงกันในปัจจุบัน ซึ่งก่อนหน้าที่จะนำอักษร “J” มาใช้ภาษาอังกฤษใช้อักษร “I” หนังสือภาษาอังกฤษจากคริสต์ศตวรรษที่ 17 ยังสะกดจอห์นด้วยอักษร “I” เป็น “Iohn” แต่ตั้งแต่นั้นมาก็เปลี่ยนการสะกดโดยใช้อักษรเป็น “Johnny” เช่นปัจจุบัน